3 เกมเกี่ยวกับการซ่อนแอบ ทั้งแบบเล่นคนเดียวและออนไลน์

ซ่อนแอบนั้นเป็นการละเล่นที่รู้จักกันไปทั่วโลก  เนื่องด้วยวิธีการเล่นที่ไม่มีอะไรซับซ้อน เด็กตัวเล็ก ๆ ที่ฟังความรู้เรื่องก็ยังสามารถเข้าใจได้  แน่นอนว่าการละเล่นนี้ก็ถูกนำมาสร้างเป็นเกมเช่นเดียวกัน ซึ่งในบทความนี้เราจะมากล่าวถึง 3 เกมที่ให้เราไปแอบกัน โดยเกมอาจจะมีรูปแบบการเล่นที่แตกต่างออกไปจากแบบดั้งเดิมเพื่อให้การเล่นนั้นมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

1. PropHunt (Garry’s Mod)

PropHunt เป็นโหมดหนึ่งภายในเกม Garry’s Mod เริ่มแรกถูกสร้างโดยผู้เล่นที่มีชื่อว่า Kowalski7cc ตัวเกมจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง โดยฝั่งหนึ่งจะเป็น Props หรือผู้ซ่อน ซึ่งสามารถแปลงตัวเองเป็นสิ่งของอะไรก็ได้ที่อยู่ในฉาก (แต่เลือดในตัวก็จะถูกปรับเปลี่ยนไปตามขนาดสิ่งของ) ส่วนอีกฝั่งหนึ่งจะเป็น Hunters หรือผู้หา ซึ่งฝั่งนี้จะมีปืนและอาวุธไว้สำหรับค้นหาผู้เล่นที่เป็น Props แต่ถ้าโจมตีโดนสิ่งของทั่วไป เลือดในตัวก็จะลดลง

2.Hide Online – Hunters vs Props –

มีเกมแนวซ่อนแอบอยู่หลายเกมเลยทีเดียวที่รูปแบบการเล่นได้รับอิทธิพลมาจาก PropHunt ซึ่งเกม Hide Online เองก็เป็นหนึ่งในนั้น

Hide Online เป็นเกมที่ถูกพัฒนาโดย HitRock Games สามารถเล่นได้ฟรีทั้งบนเว็บ และบน IOS/Android (แต่คนไทยน่าจะคุ้นเคยกับบนเว็บมากกว่า) แม้ว่ารูปแบบการเล่นไม่ค่อยแตกต่างอะไรจาก PropHunt มากนัก แต่ก็มีส่วนที่เพิ่มเติมมาอยู่นั่นก็คือ ผู้เล่นที่เป็น Props สามารถส่งเสียงหลอกล่อผู้เล่นที่เป็น Hunters ได้

เสริม : ตัวเกมเวอร์ชั่นบนเว็บและบน IOS/Android  ไม่เหมือนกัน โดยคาดว่าเวอร์ชั่นบนเว็บน่าจะเป็นตัวเกมเวอร์ชั่นแรก ๆ ก่อนที่จะพัฒนาต่อมาเป็นเกมแอพพลิเคชั่น

3.Hello Neighbor   

แม้เกมนี้จะไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงเท่าไรกับการเล่นซ่อนแอบ แต่ก็เป็นเกมที่เราจำเป็นต้อง “แอบ” เพื่อเอาตัวรอด

Hello Neighbor เป็นเกมที่พัฒนาโดย Dynamic Pixels และจัดจำหน่ายโดย tinyBuild มีให้เล่นทั้งเวอร์ชั่น PC และ IOS/Android  ในเกมนี้เราจะได้รับบทเป็นเด็กชายคนหนึ่งซึ่งจะเข้าไปสืบภายในบ้านของชายผู้เป็นเพื่อนบ้านของเขา เพื่อค้นหาความลับที่ชายผู้นี้ได้ซ่อนเอาไว้ ระหว่างที่เล่นเราจำเป็นจะต้องหลบซ่อนจากชายคนดังกล่าวที่พยายามจะตามจับตัวเราด้วย

เสน่ห์อย่างหนึ่งของเกมนี้ก็คือ AI ผู้รับบทชายเพื่อนบ้านนั้นจะเรียนรู้พฤติกรรมของเราที่เป็นผู้เล่นตลอดเวลา ถ้าเข้าไปด้วยวิธีการเดิม ๆ ชายเพื่อนบ้านก็จะรู้และดักจับได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทำให้เราต้องหาวิธีการใหม่เพื่อเข้าไปในบ้านของเขาอยู่เสมอ

อย่างไรก็ตาม นี่ก็เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของเกมที่เกี่ยวข้องกับการซ่อนแอบ บางเกมถ้าลองพิจารณาดูก็จะพบว่ามันมีเรื่องของการแอบเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเช่นกันอย่าง Outlast แต่ทุกเกมก็ล้วนพยายามจะนำเสนอการซ่อนแอบให้เข้ากับเกมของพวกเขา เพื่อให้เกมของพวกเขาเกิดความน่าสนใจ

เกมออนไลน์ที่สาย Solo ก็เล่นด้วยได้อย่างสบายใจ

การเล่นร่วมกับเพื่อนหรือคนแปลกหน้าที่พบเจอในเกมอาจจะถือเป็นเรื่องปกติมากสำหรับการเล่นเกมออนไลน์ แต่ก็จะมีผู้เล่นเกมออนไลน์บางส่วนเหมือนกัน ที่รู้สึกว่าการเล่นแบบเป็นทีมนั้นไม่ตอบโจทย์พวกเขาสักเท่าไร แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังอยากมีส่วนร่วมกับเกมออนไลน์อยู่ดี ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาแนะนำเกมออนไลน์ที่ไม่บังคับให้เราหาทีม เล่นคนเดียวก็อยู่ได้

1.Black Desert

Black Desert เป็นเกมประเภท MMORPG ที่จะให้เราเลือก 1 ใน 19 อาชีพและออกไปผจญภัยในโลกกว้างเพื่อค้นหาความทรงจำที่ถูกลบเลือนหายไป โดยมีสิ่งมีชีวิตเรียกว่า ภูติดำ ติดตามไปทุกหนทุกแห่ง

ระบบของเกมนี้เอื้ออำนวยต่อการเล่นคนเดียวอยู่พอสมควร เนื่องจากมอนส์เตอร์ส่วนใหญ่ไม่ค่อยยากเกินความสามารถของผู้เล่นคนเดียว ถ้ายากเกินไปก็ยังสามารถหาซื้อไอเทมจากมอนส์เตอร์ตัวนั้นได้ในตลาดกลาง (เมื่อมีคนนำมาวางขาย) และสามารถผันตัวไปสาย Life Skill ที่ไม่จำเป็นต้องยุ่งกับใครได้ทันที

2.Osu!

Osu! เป็นเกมประเภท Rhythm จากปี 2007 ที่จะให้เรากดปุ่มบนจอ, ตีกลอง, รับผลไม้ หรือกดปุ่มที่ไหลลงมา ตามจังหวะเพลงให้ทันเวลา เพื่อรักษาคอมโบ และทำคะแนนให้ได้เยอะมากที่สุด

โหมด Multiplayers ของเกมนี้มีไว้สำหรับบันทึกสถิติที่เคยทำได้ และมีไว้เข้าไปประชันฝีมือหรือพูดคุยกับผู้เล่นอื่น ในส่วนของการประชันฝีมือจะเป็นการเล่นแมพที่หัวหน้าห้องเลือกไว้พร้อมกันทั้งห้อง มีทั้งแบบเดี่ยวและแบบทีม ซึ่งในแบบทีมจะเป็นเพียงการนำคะแนนที่ทำได้ของทุกคนในทีมมารวมกันและนำไปวัดกับคะแนนของอีกทีมเท่านั้น

3.เกมแนว Battle Royale

Battle Royale คือหนึ่งในแนวเกมประเภท Shooting ที่จะส่งเราไปอยู่บนพื้นที่แห่งหนึ่ง เป้าหมายก็คือให้เราต่อสู้กับผู้เล่นคนอื่นที่อยู่ในรอบเดียวกัน และอยู่รอดให้ได้เป็นคนหรือทีมสุดท้ายของรอบนั้น ๆ โดยแนวเกมนี้จะได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์สัญชาติญี่ปุ่นเรื่องหนึ่งที่มีชื่อว่า Battle Royale

เกมแนวนี้แทบทั้งหมดจะเปิดโอกาสให้เราสามารถเล่นคนเดียวได้อยู่แล้วตามความความต้องการ แต่การเอาชนะเกมนั้นทำได้ยากกว่าการเล่นแบบเป็นทีมหลายเท่าตัว เนื่องจากเราจะไม่มีเพื่อนคอยซัพพอร์ตไอเทมหรือระวังหลังให้ ต้องพึ่งพาฝีมือของตัวเองล้วน ๆ จึงทำให้หลายคนไม่ค่อยแนะนำให้ลองในช่วงที่เพิ่งเริ่มเล่น

ยังมีอีกหลายเกม ทั้งแบบฟรีและเสียเงิน ที่เอื้ออำนวยต่อการเล่นคนเดียว บางเกมมันก็เป็นความท้าทายอย่างหนึ่งที่เหล่าผู้เล่นจะต้องลองเผชิญ แต่บางเกมทีมผู้พัฒนาก็ตั้งใจให้มีเพื่อสนับสนุนผู้เล่นที่มาคนเดียวอยู่แล้ว เพราะเข้าใจว่าไม่ใช่ทุกคนที่สามารถพาเพื่อนมาเล่นด้วยได้ และไม่ใช่ทุกคนที่ชอบการเล่นแบบเป็นทีม