4 แมพสุดยากบรรลัยในเกม Osu!

ผู้เล่น Osu! หลายคนจะทราบกันอยู่แล้วว่าในเกมนี้ผู้พัฒนาเปิดโอกาสให้เราสร้างแมพขึ้นมาใหม่เองได้ผ่านโหมดที่มีชื่อว่า Edit

และด้วยความอิสระในการปรับแต่ง ไม่มีการตั้งข้อกำหนดไว้ว่าผู้สร้างจำเป็นต้องเล่นให้ผ่านด้วยแบบ Super Mario Maker  มันก็จะทำให้มีผู้เล่นบางส่วนนึกสนุกสร้างแมพที่ยากต่อการเอาชนะ ผู้เล่นอื่นโหลดมาลองเล่นดูก็ต้องพากันมองตาปริบ ๆ แล้วแอบคิดว่า “แมพนี่มันเล่นผ่านได้จริง ๆ น่ะหรอ?” ซึ่งในบทความนี้เราจะมายกตัวอย่างแมพเหล่านั้นกัน โดยจะเป็นแมพที่พิสูจน์มาแล้วว่ามีผู้ที่สามารถเล่นผ่านได้จริงแบบไม่ใช้ No – Fail (เล่นพลาดแค่ไหนก็สามารถผ่านได้)

1.The Quick Brown Fox – The Big Black [WHO’S AFRAID OF THE BIG BLACK]

แมพนี้ถูกสร้างขึ้นในปี  2012 โดย Username ที่มีชื่อว่า Blue Dragon  ความยากของแมพนี้เป็นที่กล่าวขานเอามาก ๆ  จากเหล่าผู้เล่นทุกโหมด  (osu!, osu!taiko, osu!catch และ osu!mania) แม้ว่าในปัจจุบันความน่ากลัวของแมพนี้อาจจะไม่ได้มากเทียบเท่ากับสมัยก่อนแล้ว แต่ก็ยังเป็นแมพที่เหล่าผู้เล่นใหม่ควรลองผ่านไปให้ได้สักครั้งอยู่ดี

2.Everything will freeze [Time Freeze]

แมพนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 2014 โดย Username ที่มีชื่อว่า Ekoro เป็นแมพที่มีจังหวะเพลงอันแสนรวดเร็ว ทำให้ตัวโน๊ตก็มาเร็วและไปเร็วไม่แพ้จังหวะเพลง  ในปัจจุบันผู้ที่สามารถเล่นผ่านไปได้โดยไม่ใช้ Mod เพิ่มความง่าย ( Half Time, Easy) ก็มีจำนวนมากพอสมควร แต่คนที่สามารถเล่นแมพนี้ให้ผ่านไปได้โดยไม่พลาดเลยแม้แต่ตัวเดียวก็มีไม่เยอะสักเท่าไร

3.DADADADADADADADADADA (Long Version) [ULTRA BERZERK]

แมพนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 2015 โดย Username ที่มีชื่อว่า Lokovodo หากมองชื่อแมพก็คงเดาได้ไม่ยากถึงความเร็วของจังหวะเพลง แต่ว่าตัวโน๊ตที่ทางผู้สร้างวางไว้กลับเร็วยิ่งกว่านั้น จึงไม่แปลกที่ทางสถิติจะพบว่ายังมีผู้ที่เล่นพลาดอยู่เยอะมาก พบผู้เล่นที่ไม่พลาดเลยอยู่เพียงแค่ 2 โหมดคือ osu!taiko และ osu!mania

4.t+pazolite – Count down 321 [0 Count]

แมพนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 2015 โดย Username ที่มีชื่อว่า Nakagawa-Kanon ถ้าหากลองดูสถิติจะพบว่าส่วนใหญ่ยังคงใช้ Mod เพื่อช่วยในการผ่านอยู่ และยิ่งถ้าดูในโหมด Osu! แล้วจะพบว่ามีน้อยคนมากที่สามารถผ่านแมพนี้ไปได้โดยไม่ใช้ No – Fail  แสดงให้เห็นได้ชัดเจนเลยว่าแมพนี้ยากมากแค่ไหน

จบกันไปแล้วสำหรับการยกตัวอย่างแมพที่ยากต่อการเอาชนะ ซึ่งแมพเหล่านี้ก็ถือว่าเสน่ห์อย่างหนึ่งของเกม Osu! และอาจจะเป็นเสน่ห์ของเกมแนว Rhythm อีกหลาย ๆ เกมด้วยเช่นกัน เพราะ ฝีมือในการเล่นย่อมมีการพัฒนาเมื่อเวลาผ่านไป ทำให้เรามักจะโหยหาสิ่งที่ดีพอจะมาท้าทายฝีมือของเราอยู่เสมอ และด่านยากเหล่านี้ก็มาเพื่อตอบโจทย์กับความต้องการนั้น ๆ

3 เกมเกี่ยวกับการซ่อนแอบ ทั้งแบบเล่นคนเดียวและออนไลน์

ซ่อนแอบนั้นเป็นการละเล่นที่รู้จักกันไปทั่วโลก  เนื่องด้วยวิธีการเล่นที่ไม่มีอะไรซับซ้อน เด็กตัวเล็ก ๆ ที่ฟังความรู้เรื่องก็ยังสามารถเข้าใจได้  แน่นอนว่าการละเล่นนี้ก็ถูกนำมาสร้างเป็นเกมเช่นเดียวกัน ซึ่งในบทความนี้เราจะมากล่าวถึง 3 เกมที่ให้เราไปแอบกัน โดยเกมอาจจะมีรูปแบบการเล่นที่แตกต่างออกไปจากแบบดั้งเดิมเพื่อให้การเล่นนั้นมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

1. PropHunt (Garry’s Mod)

PropHunt เป็นโหมดหนึ่งภายในเกม Garry’s Mod เริ่มแรกถูกสร้างโดยผู้เล่นที่มีชื่อว่า Kowalski7cc ตัวเกมจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง โดยฝั่งหนึ่งจะเป็น Props หรือผู้ซ่อน ซึ่งสามารถแปลงตัวเองเป็นสิ่งของอะไรก็ได้ที่อยู่ในฉาก (แต่เลือดในตัวก็จะถูกปรับเปลี่ยนไปตามขนาดสิ่งของ) ส่วนอีกฝั่งหนึ่งจะเป็น Hunters หรือผู้หา ซึ่งฝั่งนี้จะมีปืนและอาวุธไว้สำหรับค้นหาผู้เล่นที่เป็น Props แต่ถ้าโจมตีโดนสิ่งของทั่วไป เลือดในตัวก็จะลดลง

2.Hide Online – Hunters vs Props –

มีเกมแนวซ่อนแอบอยู่หลายเกมเลยทีเดียวที่รูปแบบการเล่นได้รับอิทธิพลมาจาก PropHunt ซึ่งเกม Hide Online เองก็เป็นหนึ่งในนั้น

Hide Online เป็นเกมที่ถูกพัฒนาโดย HitRock Games สามารถเล่นได้ฟรีทั้งบนเว็บ และบน IOS/Android (แต่คนไทยน่าจะคุ้นเคยกับบนเว็บมากกว่า) แม้ว่ารูปแบบการเล่นไม่ค่อยแตกต่างอะไรจาก PropHunt มากนัก แต่ก็มีส่วนที่เพิ่มเติมมาอยู่นั่นก็คือ ผู้เล่นที่เป็น Props สามารถส่งเสียงหลอกล่อผู้เล่นที่เป็น Hunters ได้

เสริม : ตัวเกมเวอร์ชั่นบนเว็บและบน IOS/Android  ไม่เหมือนกัน โดยคาดว่าเวอร์ชั่นบนเว็บน่าจะเป็นตัวเกมเวอร์ชั่นแรก ๆ ก่อนที่จะพัฒนาต่อมาเป็นเกมแอพพลิเคชั่น

3.Hello Neighbor   

แม้เกมนี้จะไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงเท่าไรกับการเล่นซ่อนแอบ แต่ก็เป็นเกมที่เราจำเป็นต้อง “แอบ” เพื่อเอาตัวรอด

Hello Neighbor เป็นเกมที่พัฒนาโดย Dynamic Pixels และจัดจำหน่ายโดย tinyBuild มีให้เล่นทั้งเวอร์ชั่น PC และ IOS/Android  ในเกมนี้เราจะได้รับบทเป็นเด็กชายคนหนึ่งซึ่งจะเข้าไปสืบภายในบ้านของชายผู้เป็นเพื่อนบ้านของเขา เพื่อค้นหาความลับที่ชายผู้นี้ได้ซ่อนเอาไว้ ระหว่างที่เล่นเราจำเป็นจะต้องหลบซ่อนจากชายคนดังกล่าวที่พยายามจะตามจับตัวเราด้วย

เสน่ห์อย่างหนึ่งของเกมนี้ก็คือ AI ผู้รับบทชายเพื่อนบ้านนั้นจะเรียนรู้พฤติกรรมของเราที่เป็นผู้เล่นตลอดเวลา ถ้าเข้าไปด้วยวิธีการเดิม ๆ ชายเพื่อนบ้านก็จะรู้และดักจับได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทำให้เราต้องหาวิธีการใหม่เพื่อเข้าไปในบ้านของเขาอยู่เสมอ

อย่างไรก็ตาม นี่ก็เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของเกมที่เกี่ยวข้องกับการซ่อนแอบ บางเกมถ้าลองพิจารณาดูก็จะพบว่ามันมีเรื่องของการแอบเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเช่นกันอย่าง Outlast แต่ทุกเกมก็ล้วนพยายามจะนำเสนอการซ่อนแอบให้เข้ากับเกมของพวกเขา เพื่อให้เกมของพวกเขาเกิดความน่าสนใจ

3 เกมสั้นที่มีฉากจบตราตรึงใจ

เกมแต่ละเกมมีความน่าสนใจที่แตกต่างกัน บางเกมก็มีดีที่ระบบของเกม บางเกมก็มีดีที่ความสวยงามของภาพกราฟิก และบางเกมก็มีดีที่เนื้อเรื่อง สามารถการสร้างฉากจบให้เป็นที่จดจำ ดังนั้นในบทความนี้เราจะมากล่าวถึงเกมที่มีฉากจบสุดแสนตราตึงใจกัน โดยจะเน้นเกมที่มีระยะเวลาในการเล่นไม่เกิน 2 – 3 ชม. หรือบางเกมก็ใช้เวลาเล่นเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น

คำเตือน ในบทความนี้มีการกล่าวถึง ฉากจบ ของเกม

1.Death Trips

Death Trips เป็นเกมที่ถูกสร้างขึ้นโดยนาย Alberto Navarro ซึ่งทำขึ้นมาเพื่อฉลองวันฮาโลวีนในปี 2018 เนื่องด้วยนายคนนี้ใช้เวลาในการทำเกมเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น จึงไม่แปลกที่เกมจะสั้นเอามาก ๆ โดยเนื้อเรื่องของเกมนี้จะให้เราเข้าไปสำรวจโรงแรมแห่งหนึ่ง ที่คาดว่าอาจจะมีฆาตกรต่อเนื่องหลบซ่อนอยู่

เมื่อเราขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นถัดมา เราจะได้เจอกับหญิงสาวท่าทางน่ากลัวยืนดักอยู่ตรงหน้า เธอจะวิ่งตรงเข้ามาหาเราอย่างเกรี้ยวกราด…ก่อนจะสะดุดโต๊ะวางแจกัน และตัดจบไปแบบงง ๆ

2.The Witch’s House

The Witch’s House (Majo no ie) เป็นเกมแนว Survival horror ที่ถูกสร้างขึ้นโดย Fummy เปิดตัวครั้งแรกในปี 2012 มีการนำมาปรับปรุงและวางจำหน่ายในชื่อ The Witch’s House MV เมื่อปี 2018 เราจะได้รับบทเป็นเด็กสาวที่มีนามว่า วิโอล่า ผู้เพิ่งตื่นขึ้นมาในใจกลางป่าใหญ่ ทุกเส้นทางถูกดอกกุหลาบขวางเอาไว้ เธอจึงจำใจต้องก้าวเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยกับดัก เพื่อหาสิ่งของที่พอจะช่วยให้เธอหนีออกจากป่าไปได้

ถ้าหากเราสามารถเล่นจนได้ฉากจบแบบ True Ending เราจะได้รู้ว่าแท้จริงแล้ว คนที่อยู่ในร่างของวิโอล่าตอนนี้ก็คือ เอเลน แม่มดผู้เป็นเจ้าของบ้านที่เราเพิ่งเข้าไปเมื่อสักครู่ โดยเธอหลอกให้วิโอล่าสลับร่างกับเธอก่อนจะยึดร่างกายมาเป็นของตนเอง และจุดจบของวิโอล่าในร่างเอเลนก็คือถูกพ่อแท้ ๆ ยิงจนเสียชีวิต

3.Little Misfortune

Little Misfortune เป็นเกมแนว Horror adventure สร้างและจัดจำหน่ายโดย Killmonday Games เรื่องถูกเซ็ตอยู่ในปี 1993 เราจะได้ควบคุม Misfortune Ramirez Hernandez สาวน้อยวัย 8 ขวบที่อาศัยตามอยู่ลำพังกับพ่อแม่ของเธอ วันหนึ่งเธอได้ยินเสียงใครบางคนกล่าวอยู่ในหัวว่าเธอจะตายวันนี้ เจ้าของเสียงนั้นรู้เข้าจึงชวนเธอมาเล่นเกมเลือกตอบ และถ้าเธอชนะเกมนี้ก็จะได้รับรางวัลคือ ความสุขอันเป็นนิรันดร์

ฉากจบของเกมนี้เกิดขึ้นเมื่อสาวน้อยหนีจาก มอร์โก้ หรือเจ้าของเสียงในหัวของเธอไปได้ เธอจะตื่นขึ้นมาอีกครั้งภายในบ้าน และเมื่อเดินออกไปด้านนอกเธอก็จะได้รับรู้ถึงความจริงที่ว่า เธอถูกรถชนเสียชีวิตแล้วแต่ยังไม่รู้ตัว และก่อนที่เธอจะเดินทางไปยังโลกแห่งความตาย สาวน้อยก็ได้เดินไปบอกลาแม่ของเธอ พร้อมกับกล่าวความรู้สึกในใจว่า “เธอคงเป็นตัวซวยของแม่ แต่จากนี้ไปแม่ก็หาความสุขให้ตัวเองได้แล้วนะ”

หากคุณสนใจที่จะลองสัมผัสบรรยากาศของฉากจบเหล่านี้ด้วยตนเอง คุณสามารถหาซื้อเกมมาเล่นได้ผ่านทางร้านค้า Steam ในราคาหลักร้อย (ยกเว้นเกม Death Trips)

3 เกมที่มีสไตล์ของภาพสวนทางกับเนื้อหา

ความคิดสร้างสรรค์ของเหล่าผู้สร้างนั้นเริ่มมีความหลากหลายมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ตามยุคสมัย จนทำให้การ “หลอกคนดูด้วยภาพ” นั้นถือกำเนิดขึ้นโดยบางคนอาจจะเคยได้สัมผัสมาบ้างผ่านการ์ตูนหรือหนัง ที่บางเรื่องภาพน่ารักแต่เนื้อหาหดหู่ บางเรื่องตัวละครอย่างเข้มแต่เนื้อหากาวจนถอดสมองดูยังได้ แน่นอนว่าในวงการเกมก็มีเกมลักษณะดังกล่าวอยู่บ้าง และเกมที่เราจะกล่าวถึงในบทความนี้ก็อาจจะนับได้ว่าเป็นหนึ่งในเกมเหล่านั้นด้วยเช่นกัน

1.We Happy Few   

We Happy Few คือเกมที่ผสมผสานระหว่าง  Action-Adventure และ  Survival Horror โดยเรื่องจะถูกเซ็ตอยู่ในอังกฤษช่วงปี 1960 ที่ผลลัพธ์จากสงครามโลกครั้งที่ 2 จะเกิดเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง ทุกคนในเมืองจะถูกบังคับให้กิน “ยาแห่งความสุข” ซึ่งเมื่อกินไปแล้วจะเกิดอาการประสาทหลอนทำให้รู้สึกดี เห็นโลกสวยสดใสราวกับวิ่งอยู่ในทุ่งดอกลาเวนเดอร์ แต่ว่าก็มีคนบางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับวิถีชีวิตดังกล่าว พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะหนีออกจากเมือง

เกมนี้เราจะได้บังคับเป็น 3 ตัวละครที่มีเนื้อเรื่องแตกต่างกัน จะต้องเอาตัวรอดทุกวิถีทางทั้ง หลบซ่อน, แฝงตัว และ สู้กลับ เพื่อพาทั้ง 3 คนนี้ออกไปจากเมืองให้สำเร็จ

2.Spooky’s Jump Scare Mansion

Spooky’s Jump Scare Mansion เป็นเกมแนว Horror ที่จะท้าทายให้เราเอาตัวรอดจากห้องจำนวน 1000 ห้องที่อยู่ภายในคฤหาสน์แห่งหนึ่ง โดยระหว่างทางก็จะมีรูปภาพโผล่มาเซอร์ไพรส์ให้เราตกใจเล่น สมกับชื่อเกม

ในห้องแรก ๆ ภาพที่โผล่ออกมาก็จะยังเป็นภาพน่ารักสดใส  เราเห็นก็คงไม่รู้สึกกลัวอะไร  แต่ยิ่งมากห้อง สิ่งที่โผล่ออกมาก็จะยิ่งเริ่มทวีความน่ากลัวขึ้นเรื่อย ๆ พ่วงด้วยปริศนาและผีที่จะมาไล่ตามเรา จนหลายคนถึงกับออกมาบอกว่าเกมนี้น่ากลัวมากกว่าเกมผีบางเกมเสียอีก

3.60 Seconds!

60 Seconds! คือเกมที่ผสมผสานระหว่าง Adventure, Casual, Indie, Simulation และ Strategy ว่าด้วยเรื่องของครอบครัวหนึ่งซึ่งประกอบไปด้วย Ted (พ่อ) , Dolores (แม่) , Mary Jane (ลูกสาว) และ Timmy (ลูกชาย) พวกเขาต้องเอาชีวิตรอดอยู่ภายในเมืองที่เกิดการระเบิดของนิวเคลียร์จนพื้นที่ด้านบนไม่สามารถอาศัยได้อีกต่อไป เราจำเป็นจะต้องบริหารทรัพยากรที่มีอยู่อย่างรอบคอบ เพื่อพาครอบครัวนี้รอดชีวิตไปได้ให้นานมากที่สุด

เกมนี้การเลือกมีผลเป็นอย่างมาก เพราะแทบทุกเหตุการณ์จะออกมาในรูปแบบสุ่ม หากไม่มีสิ่งของจำเป็นต่อเหตุการณ์ที่กำลังเกิด เหตุการณ์นั้นอาจส่งผลเสียแก่เรา และเกมนี้มีฉากจบ หากเลือกผิดอาจจะทำให้ฉากจบเปลี่ยนไปได้เลย

โดยรวม ๆ แล้ว มันก็คือรูปแบบหนึ่งของการนำเสนอเพื่อให้เกมของพวกเขามีความแตกต่างจากเกมแนวเดียวกันในท้องตลาด ซึ่งอาจจะทำให้เกมนั้นเกิดความโดดเด่น กลายเป็นที่สนใจแก่เหล่าผู้เล่นนั่นเอง